1
ประกาศซื้อขายทั่วไป / มอเตอร์โชว์: เผยโฉม 2025 BMW X3 ดีไซน์ใหม่หมดจด เหลี่ยมสันมากขึ้น เข้าสู่ยุคใหม่
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 00:19:29 »
มอเตอร์โชว์: เผยโฉม 2025 BMW X3 ดีไซน์ใหม่หมดจด เหลี่ยมสันมากขึ้น เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว
2025 BMW X3 รหัสตัวถัง G45 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมดจดในภาษาของ BMW ยุคใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน โดยเปิดตัวทั้งขุมพลังเบนซิน ดีเซล และ PHEV มาดูกันชัด ๆ ว่า ดีไซน์ที่ใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิมแบบนี้จะถูกใจเราหรือไม่
มิติตัวถัง 2025 BMW X3 (G45)
ความยาว 4,755 มม.
ความกว้าง 1,920 มม.
ความสูง 1,660 มม.
ระยะฐานล้อ 2,865 มม.
เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม G01 พบว่ารุ่นใหม่ 2025 X3 ยาวขึ้น 34 มม. กว้างขึ้น 29 มม. เตี้ยลง 25 มม. และมีระยะฐานล้อเท่าเดิม
ดีไซน์ที่มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ
BMW X3 ใหม่มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นข้อถกเถียงอีกครั้ง โดยเริ่มที่กระจังหน้าไตคู่ Kidney Grille แบบใหม่ที่มีไฟ LED ตัดขอบ ไปจนถึงดีไซน์ในภาพรวมของรถที่มีความเหลี่ยมสัน และโดดเด่นด้วยเส้นตั้งและเส้นเฉียงที่ตัดกัน ทำให้ดูแปลกตา
โดยในรุ่น X3 30 จะมีกระจังหน้าไตคู่ที่ให้มีเส้นตรงตัดด้วยเส้นเฉียง ส่วนรุ่น X3 M50 จะเป็นเส้นแนวนอนสีดำ รวมถึงมีการตกแต่งด้วยสีดำรอบคัน ทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับดีไซน์ด้านข้าง BMW ระบุว่า ต้องการออกแบบให่รูปลักษณ์โดยรวมดูใหญ่โต และลดทอนเส้นสายให้เหลือเพียง “สิ่งสำคัญ” ซุ้มล้อออกแบบให้รถมีความกว้างและสปอร์ตมากขึ้น ด้านท้ายมีส่วนเว้าเล็กน้อยทำให้ตัวรถโดดเด่นขึ้นมา ท่อไอเสียในรุ่น M50 จะเป็นท่อคู่ 4 ท่อแบบ M ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะถูกซ่อนเอาไว้
สำหรับสีสันภายนอกมีให้เลือกมากมาย อย่างของ X3 M50 ใหม่นั้นมาพร้อมกับสี Dune Grey metallic ส่วนล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ 18 ไปจนถึง 21 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย นอกจากนี้ X3 รหัส G45 จะไม่มี “i” ต่อท้ายแล้วสำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
ขุมพลังปรับปรุงใหม่หลายด้าน แต่แรงเท่าเดิม
สำหรับ X3 ใหม่จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ xDrive มาให้ทุกรุ่น รวมถึงมีการออกแบบและมีการปรับปรุงใหม่หลายด้าน โดยมีขุมพลังใต้ฝากระโปรง ดังนี้
X3 30e xDrive ขุมพลัง PHEV มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เมื่อทั้งสองระบบทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร จับคู่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 19.7 kWh รองรับการชาร์จ AC 11 kW ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนระยะทางสูงสุด 81 - 90 กม. (WLTP)
X3 20d xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.7 วินาที
X3 20 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V ให้กำลังสูงสุด 208 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาที
ส่วนรุ่นแรงสุด X3 M50 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตรเทอร์โบที่ปรับปรุงใหม่ ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 398 แรงม้า แรงบิด 580 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.6 วินาที เท่ากับรุ่นเดิม
เครื่องยนต์ทั้งหมดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด โดย BMW ระบุว่า X3 ใหม่ทั้งสองรุ่นจะได้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นและเพลาหลังที่กว้างขึ้น ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเพลาหน้าและหลังยังเพิ่มความแม่นยำในการเลี้ยว รวมถึงทำให้การขับขี่ทางตรงดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้สเปคอเมริกาจะมี X3 30 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 255 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที
สำหรับช่วงล่างจะมีออพชัน M Sport suspension ประกอบด้วย sport steering และเบรค M Sport รวมถึงยังสามารถเสริมออพชันในระบบ Dynamic Damper Control ที่ให้ช่วงล่างแบบ adaptive ที่มีความนุ่มนวลกว่าได้ต่างหาก ส่วนรุ่น X3 M50 xDrive จะมีช่วงล่าง M Sport suspension มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงมีพวงมาลัยแบบสปอร์ตแปรผัน, เบรค M Sport, ล้ออัลลอย 20 นิ้ว และเฟืองท้าย M Sport differential มาให้ด้วย
ภายในแบบมินิมอล แต่โฉบเฉี่ยว
สำหรับภายในของ X3 ใหม่มีดีไซน์แบบ BMW ยุคใหม่ คล้ายกับรุ่นพี่อย่าง iX อยู่ไม่น้อย ไฟ Ambient Light ในห้องโดยสารดูล้ำสมัย โดยเฉพาะรุ่น M50 เส้นสายต่าง ๆ มีความตัดกันออกมาเป็นรูปร่างที่ดูแปลกตา แต่ด้วยเส้นแนวนอนที่ยาวของแดชบอร์ดและการลดทอนปุ่มกดต่าง ๆ ทำให้ดูมินิมอล ให้ความสะอาดตา
เช่นเดียวกับ BMW ยุคใหม่คันอื่น ๆ X3 ใหม่ก็มีจอโค้ง BMW Curved Display ด้วยเช่นกัน มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด BMW Operating System 9 พร้อมระบบ QuickSelect ยังควบคุมด้วยปุ่ม iDrive กลางคอนโซล รวมถึงพวงมาลัยท้ายตัดแบบ 5 และ 7 Series นอกจากนี้ยังมีวัสดุใหม่เป็นโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ถักทอกันบนแผงหน้าปัดซึ่งเป็นครั้งแรกของวัสดุนี้ใน BMW
ส่วนระบบ ADAS มีให้อย่างครบครันมากขึ้นสำหรับ 2025 X3 เช่น ระบบช่วยจอด Parking Assistant ใหม่ที่สามารถควบคุมจากนอกรถได้แล้วที่ความเร็วต่ำกว่า 65 กม.ชม., ระบบ Traffic Jam Assistant ที่ไม่ต้องจับพวงมาลัยแล้วและทำได้นานขึ้น รวมถึงระบบนำทางใหม่ที่จะให้ข้อมูลได้ดีขึ้นและมี AR ช่วยเพิ่มความสะดวกในการนำทาง
X3 ใหม่ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ภายใต้ BMW Digital Premium เช่น รองรับ AirConsole สามารถเล่นเกมได้เมื่อจอดรถ, รองรับแอพ DTS AutoStage Video Service เพื่อสตรีมมิ่งรายการไลฟ์และรายการที่ต้องการได้, ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ปรับปรุงใหม่ รวมถึง “My Modes” ที่ลูกค้าสามารถซื้อเพิ่มได้นอกเหนือจากโหมด Personal, Sport และ Efficient ที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ Expressive Mode, Relax Mode, Digital Art Mode, และโหมดใหม่ล่าสุด Silent Mode
เริ่ม 1.8 ล้านบาทในสหรัฐฯ
สำหรับ 2025 BMW X3 ในสหรัฐฯ จะเริ่มการผลิตภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนรุ่นไฟฟ้าล้วน iX3 (ที่ใช้แพลทฟอร์มแยกกัน) จะมีการเปิดตัวตามมาในปีหน้า ส่วนในบ้านเรา หากมีข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม เราจะนำมารายงานให้ได้ทราบกัน
2025 BMW X3 รหัสตัวถัง G45 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมดจดในภาษาของ BMW ยุคใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน โดยเปิดตัวทั้งขุมพลังเบนซิน ดีเซล และ PHEV มาดูกันชัด ๆ ว่า ดีไซน์ที่ใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิมแบบนี้จะถูกใจเราหรือไม่
มิติตัวถัง 2025 BMW X3 (G45)
ความยาว 4,755 มม.
ความกว้าง 1,920 มม.
ความสูง 1,660 มม.
ระยะฐานล้อ 2,865 มม.
เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม G01 พบว่ารุ่นใหม่ 2025 X3 ยาวขึ้น 34 มม. กว้างขึ้น 29 มม. เตี้ยลง 25 มม. และมีระยะฐานล้อเท่าเดิม
ดีไซน์ที่มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ
BMW X3 ใหม่มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นข้อถกเถียงอีกครั้ง โดยเริ่มที่กระจังหน้าไตคู่ Kidney Grille แบบใหม่ที่มีไฟ LED ตัดขอบ ไปจนถึงดีไซน์ในภาพรวมของรถที่มีความเหลี่ยมสัน และโดดเด่นด้วยเส้นตั้งและเส้นเฉียงที่ตัดกัน ทำให้ดูแปลกตา
โดยในรุ่น X3 30 จะมีกระจังหน้าไตคู่ที่ให้มีเส้นตรงตัดด้วยเส้นเฉียง ส่วนรุ่น X3 M50 จะเป็นเส้นแนวนอนสีดำ รวมถึงมีการตกแต่งด้วยสีดำรอบคัน ทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับดีไซน์ด้านข้าง BMW ระบุว่า ต้องการออกแบบให่รูปลักษณ์โดยรวมดูใหญ่โต และลดทอนเส้นสายให้เหลือเพียง “สิ่งสำคัญ” ซุ้มล้อออกแบบให้รถมีความกว้างและสปอร์ตมากขึ้น ด้านท้ายมีส่วนเว้าเล็กน้อยทำให้ตัวรถโดดเด่นขึ้นมา ท่อไอเสียในรุ่น M50 จะเป็นท่อคู่ 4 ท่อแบบ M ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะถูกซ่อนเอาไว้
สำหรับสีสันภายนอกมีให้เลือกมากมาย อย่างของ X3 M50 ใหม่นั้นมาพร้อมกับสี Dune Grey metallic ส่วนล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ 18 ไปจนถึง 21 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย นอกจากนี้ X3 รหัส G45 จะไม่มี “i” ต่อท้ายแล้วสำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
ขุมพลังปรับปรุงใหม่หลายด้าน แต่แรงเท่าเดิม
สำหรับ X3 ใหม่จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ xDrive มาให้ทุกรุ่น รวมถึงมีการออกแบบและมีการปรับปรุงใหม่หลายด้าน โดยมีขุมพลังใต้ฝากระโปรง ดังนี้
X3 30e xDrive ขุมพลัง PHEV มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เมื่อทั้งสองระบบทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร จับคู่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 19.7 kWh รองรับการชาร์จ AC 11 kW ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนระยะทางสูงสุด 81 - 90 กม. (WLTP)
X3 20d xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.7 วินาที
X3 20 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V ให้กำลังสูงสุด 208 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาที
ส่วนรุ่นแรงสุด X3 M50 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตรเทอร์โบที่ปรับปรุงใหม่ ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 398 แรงม้า แรงบิด 580 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.6 วินาที เท่ากับรุ่นเดิม
เครื่องยนต์ทั้งหมดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด โดย BMW ระบุว่า X3 ใหม่ทั้งสองรุ่นจะได้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นและเพลาหลังที่กว้างขึ้น ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเพลาหน้าและหลังยังเพิ่มความแม่นยำในการเลี้ยว รวมถึงทำให้การขับขี่ทางตรงดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้สเปคอเมริกาจะมี X3 30 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 255 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที
สำหรับช่วงล่างจะมีออพชัน M Sport suspension ประกอบด้วย sport steering และเบรค M Sport รวมถึงยังสามารถเสริมออพชันในระบบ Dynamic Damper Control ที่ให้ช่วงล่างแบบ adaptive ที่มีความนุ่มนวลกว่าได้ต่างหาก ส่วนรุ่น X3 M50 xDrive จะมีช่วงล่าง M Sport suspension มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงมีพวงมาลัยแบบสปอร์ตแปรผัน, เบรค M Sport, ล้ออัลลอย 20 นิ้ว และเฟืองท้าย M Sport differential มาให้ด้วย
ภายในแบบมินิมอล แต่โฉบเฉี่ยว
สำหรับภายในของ X3 ใหม่มีดีไซน์แบบ BMW ยุคใหม่ คล้ายกับรุ่นพี่อย่าง iX อยู่ไม่น้อย ไฟ Ambient Light ในห้องโดยสารดูล้ำสมัย โดยเฉพาะรุ่น M50 เส้นสายต่าง ๆ มีความตัดกันออกมาเป็นรูปร่างที่ดูแปลกตา แต่ด้วยเส้นแนวนอนที่ยาวของแดชบอร์ดและการลดทอนปุ่มกดต่าง ๆ ทำให้ดูมินิมอล ให้ความสะอาดตา
เช่นเดียวกับ BMW ยุคใหม่คันอื่น ๆ X3 ใหม่ก็มีจอโค้ง BMW Curved Display ด้วยเช่นกัน มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด BMW Operating System 9 พร้อมระบบ QuickSelect ยังควบคุมด้วยปุ่ม iDrive กลางคอนโซล รวมถึงพวงมาลัยท้ายตัดแบบ 5 และ 7 Series นอกจากนี้ยังมีวัสดุใหม่เป็นโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ถักทอกันบนแผงหน้าปัดซึ่งเป็นครั้งแรกของวัสดุนี้ใน BMW
ส่วนระบบ ADAS มีให้อย่างครบครันมากขึ้นสำหรับ 2025 X3 เช่น ระบบช่วยจอด Parking Assistant ใหม่ที่สามารถควบคุมจากนอกรถได้แล้วที่ความเร็วต่ำกว่า 65 กม.ชม., ระบบ Traffic Jam Assistant ที่ไม่ต้องจับพวงมาลัยแล้วและทำได้นานขึ้น รวมถึงระบบนำทางใหม่ที่จะให้ข้อมูลได้ดีขึ้นและมี AR ช่วยเพิ่มความสะดวกในการนำทาง
X3 ใหม่ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ภายใต้ BMW Digital Premium เช่น รองรับ AirConsole สามารถเล่นเกมได้เมื่อจอดรถ, รองรับแอพ DTS AutoStage Video Service เพื่อสตรีมมิ่งรายการไลฟ์และรายการที่ต้องการได้, ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ปรับปรุงใหม่ รวมถึง “My Modes” ที่ลูกค้าสามารถซื้อเพิ่มได้นอกเหนือจากโหมด Personal, Sport และ Efficient ที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ Expressive Mode, Relax Mode, Digital Art Mode, และโหมดใหม่ล่าสุด Silent Mode
เริ่ม 1.8 ล้านบาทในสหรัฐฯ
สำหรับ 2025 BMW X3 ในสหรัฐฯ จะเริ่มการผลิตภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนรุ่นไฟฟ้าล้วน iX3 (ที่ใช้แพลทฟอร์มแยกกัน) จะมีการเปิดตัวตามมาในปีหน้า ส่วนในบ้านเรา หากมีข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม เราจะนำมารายงานให้ได้ทราบกัน