ผู้เขียน หัวข้อ: มงคลแฝด (อ่าน 52 ครั้ง)

dsmol19

"มงคลแฝด" สายใยแห่งรัก สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ในพิธีแต่งงานไทย
พิธีแต่งงานตามประเพณีไทยนั้นเต็มไปด้วยรายละเอียดอันงดงามและเปี่ยมไปด้วยความหมายอันเป็นมงคล หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้และเป็นที่จดจำคือ "มงคลแฝด" หรือที่บางครั้งเรียกว่า "มงคลจักร" ด้ายศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงคู่บ่าวสาวไว้ด้วยกัน สะท้อนถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ผูกพันเป็นหนึ่งเดียว บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเรื่องราวและความสำคัญของมงคลแฝดในพิธีวิวาห์แบบไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
มงคลแฝดคืออะไร?
มงคลแฝด คือ ด้ายสายสิญจน์ที่นำมาทำเป็นวงสองวงเชื่อมต่อกัน ส่วนปลายสายสิญจน์จะทิ้งชายยาวไว้สำหรับให้ประธานในพิธีหรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือสวมลงบนศีรษะของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว โดยทั่วไปแล้ว มงคลแฝดจะทำจากด้ายดิบสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งสื่อถึงความสะอาด สว่าง และความดีงาม วงกลมสองวงที่เป็นแฝดกันนั้น แทนความหมายของการรวมเป็นหนึ่งเดียวของคนสองคน
ในอดีต มงคลแฝดมักจะถูกจัดเตรียมและผ่านพิธีปลุกเสกโดยพระสงฆ์ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้นก่อนนำมาใช้ในพิธีแต่งงาน
ความหมายอันลึกซึ้งของมงคลแฝด
มงคลแฝดไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับศีรษะในพิธี แต่แฝงไปด้วยความเชื่อและความหมายอันเป็นมงคลมากมาย:
[ul]

การเชื่อมโยงชีวิตคู่: การสวมมงคลแฝดเป็นการประกาศว่าบ่าวสาวทั้งสองได้ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นการเชื่อมโยงโชคชะตาและความสัมพันธ์ของทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็จะร่วมเผชิญไปด้วยกัน
พรแห่งความเป็นสิริมงคล: คำว่า "มงคล" หมายถึง ความดีงาม ความเจริญรุ่งเรือง การสวมมงคลแฝดจึงเปรียบเสมือนการมอบพรให้แก่คู่บ่าวสาว ให้เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยความสุข ความเจริญ และความรักที่มั่นคง
การเริ่มต้นใหม่: พิธีแต่งงานคือการเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต การสวมมงคลแฝดจึงเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นที่ดีงาม ภายใต้ร่มเงาแห่งพุทธคุณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ความผูกพันไม่แคล้วคลาด: เชื่อกันว่ามงคลแฝดจะช่วยให้คู่รักผูกพันกัน ไม่พรากจากกัน มีความรักใคร่กลมเกลียวตลอดไป

[/ul]
พิธีสวมมงคลแฝดในงานแต่งงาน
มงคลแฝดมีบทบาทสำคัญที่สุดในช่วง พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร หรือที่นิยมเรียกว่า พิธีรดน้ำสังข์ โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้:
[ol]

คู่บ่าวสาวเข้าสู่พิธี: เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และเข้าประจำที่ ณ ตั่งรดน้ำสังข์
ประธานในพิธี: โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ที่คู่บ่าวสาวให้ความเคารพนับถือสูงสุด หรือในอดีตอาจเป็นพระสงฆ์ผู้เป็นประธาน จะทำหน้าที่สวมมงคลแฝด
การสวมมงคลแฝด: ประธานจะคล้องพวงมาลัยให้แก่คู่บ่าวสาวก่อน จากนั้นจึงหยิบมงคลแฝดขึ้นอธิษฐานจิต แล้วจึงบรรจงสวมลงบนศีรษะของเจ้าบ่าว (โดยให้ส่วนที่เป็นวงอยู่ด้านขวา) และเจ้าสาว (โดยให้ส่วนที่เป็นวงอยู่ด้านซ้าย) โดยให้ส่วนที่เชื่อมต่อกันพาดไปด้านหลัง
การเจิมแป้ง: หลังจากสวมมงคลแฝดแล้ว ประธานจะทำการเจิมแป้งมงคลที่หน้าผากของคู่บ่าวสาว เป็นการอวยพรและเสริมสิริมงคล
พิธีหลั่งน้ำสังข์: เมื่อเสร็จสิ้นการสวมมงคลและเจิมแล้ว แขกผู้มีเกียรติจะเริ่มทยอยกันมารดน้ำสังข์และกล่าวคำอวยพร

[/ol]
ในอดีต หากพระสงฆ์เป็นผู้สวมมงคล ท่านจะไม่สามารถสัมผัสตัวเจ้าสาวได้ จึงอาจให้เจ้าบ่าวเป็นผู้รับมงคลจากพระสงฆ์แล้วนำไปสวมให้เจ้าสาว หรือพระสงฆ์อาจจับมือเจ้าบ่าวเพื่อเจิมหน้าผากให้เจ้าสาว แต่ในปัจจุบัน นิยมให้ผู้ใหญ่ที่เป็นฆราวาสทำหน้าที่นี้เพื่อความสะดวก
หลังเสร็จสิ้นพิธี ควรทำอย่างไรกับมงคลแฝด?
ตามความเชื่อโบราณ ห้ามทิ้งมงคลแฝดโดยเด็ดขาด เพราะถือเป็นของมงคลสูงสุดที่ได้รับในวันแต่งงาน คู่บ่าวสาวควรเก็บรักษามงคลแฝดไว้เป็นอย่างดี อาจนำไปใส่ในพาน วางไว้บนหิ้งพระ หรือเก็บไว้ในที่อันสมควร เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงวันเริ่มต้นชีวิตคู่และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวสืบไป
สรุป
มงคลแฝด ถือเป็นสัญลักษณ์ที่งดงามและมีความหมายลึกซึ้งในประเพณีแต่งงานของไทย เป็นมากกว่าเพียงด้ายสีขาว แต่เป็นตัวแทนของสายใยแห่งรัก ความผูกพัน การเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยพรันอันเป็นมงคล และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งคู่รักชาวไทยยังคงให้ความสำคัญและปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุดในวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของชีวิต

SMF Thailand.

ข่าว:

ผู้เขียน หัวข้อ: มงคลแฝด (อ่าน 52 ครั้ง)

dsmol19

มงคลแฝด